หลายๆคนที่อยากกินช็อกโกแลต แต่ยังกล้าๆกลัวๆ กลัวว่าจะอ้วน ลองอ่านบทความนี้ก่อนนะ ว่าความจริงแล้ว เจ้าช็อกโกแลตที่เราๆอยากกินเนี่ย มันมีประโยชน์ หรือโทษอย่างไรบ้าง
ช็อกโกแลตนั้น แบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน อย่างเช่นโกโก้ หรือมิลค์ช็อคโกแลต ไอ้สองตัวนี้ตัวอันตรายไม่ได้ช่วยระบบในร่างกายเลยนอกจาก เพิ่มน้ำตาลในเลือด และ ทำให้อ้วน
เรามาดูพระเอกของเราดีกว่า นั่นคือ ดาร์คช็อกโกแลต หรือที่ฝรั่งเขียนว่า Dark Chocolate นั่นเอง
ดาร์คช็อกโกแลต ได้ผ่านการทดสอบ และการวิจัยแล้ว พบว่าสาร“ฟลาโวนอยด์” (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นชนิดเช่นเดียวกับไวน์แดง พืชผัก ผลไม้ และใบชา ช่วยป้องกนหลอดเลือดแข็งตัวได้ และจากการศึกษา
ได้การรับประทานช็อกโกแลตในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป นอกจากจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือดแล้ว ยังช่วยให้การไหลเวียนของเลือด
ดีขึ้น ช่วยควบคุม ความดันโลหิต ช่วยลดอัตราเสี่ยงการอุดตันของหลอดเลือด ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ หรือช่วยในการป้องกันโรคมะเร็งบางชนิดได้ ที่สำคัญยังช่วยให้แก่ช้าได้อีกด้วย
มีรายงานของจุลสาร American Journal of Clinical Nutrition ระบุว่า เราได้รับประโยชน์จากช็อกโกแลตหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น โดยการรับประทานช็อกโกแลตดำประมาณครึ่งออนซ์ จะทำให้ความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ของร่างกายเราเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณของ LDL หรือ Low-density Lipoprotein Cholesterol ซึ่งเป็นคลอเลสเตอรอลที่เป็นพิษก็จะลดลงเช่นกัน
1 ออนซ์ (ของแห้ง) = 28.3 กรัม
ในช็อกโกแลตร้อน 1 ถ้วย มีปริมาณสารคาเฟอีนประมาณ 10 มิลลิกรัม ซึ่งน้อยกว่าในกาแฟถึง 10 เท่า แต่สามารถช่วยกระตุ้นร่างกายให้มีความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้เช่นเดียวกัน แถมยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย เพราะในช็อกโกแลตมีสารบางชนิดที่ไปช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมี
แห่งความสุขที่ชื่อ “เอ็นดอร์ฟิน” (Endorphin) ออกมาช่วยปรับอารมณ์ ทำให้เรามีอารมณ์ดีไม่หงุดหงิดง่าย อีกทั้งสาวๆที่เลือดจะไปลมจะมาทั้งหลาย ช็อกโกแลตก็สามารถช่วยได้ไม่ว่าจะลดอาการปวดท้อง หน้าบวม ตัวบวม ก่อนมีประจำเดือนอย่างได้ผล
ทั้งนี้ยังสามารถช่วยแก้อาการเมาค้าง หรือ Hangover ได้ด้วยซึ่งจะได้เลิกเมาค้างข้ามวันข้ามคืน และยังช่วยลดอาการอักเสบเวลาเจ็บป่วยต่างๆ มีผลต่อสมอง เพราะช่วยให้ตื่นตัวและยังช่วยให้กระฉับกระเฉงอีกด้วย
แม้เพียงรับประทานช็อกโกแลตในครั้งแรกก็ได้รับประโยชน์ดังกล่าวแล้ว และแม้ว่าช็อกโกแลตจะมีกรดสเตียริคซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มของระดับคลอเลสเตอรอลแต่อย่างใด แต่ไม่ใช่ว่าช็อกโกแลตทุกประเภทจะมีปริมาณพีนอลเท่ากัน ช็อกโกแลตที่ผสมนมจะมีปริมาณพีนอลน้อยกว่าช็อกโกแลตล้วนๆ 2-4 เท่า ซึ่งช็อกโกแลตที่มีปริมาณโกโก้มากเท่าไหร่ ก็จะมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณมากขึ้นเท่านั้น
หลายท่านที่ละเลยคุณประโยชน์จากช็อกโกแลตไป หรือบางคน อาจจะกลัวอ้วนเนื่องจากนมหรือน้ำตาลที่ผสมอยู่ในช็อกโกแลต ถ้าหันมา รับประทานช็อกโกแลตที่มีนมหรือน้ำตาลในปริมาณต่ำ ก็จะได้รับประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระไม่น้อยทีเดียว อร่อยด้วยมีประโยชน์ด้วย แหมช่างคุ้มจริงๆ
by http://women.sanook.com/health/know_eat/knoweat_52456.php